การสรรหาความงามให้ตัวเองเป็นเรื่องที่ผู้หญิงฝักใฝ่มาตั้งแต่ในอดีตกาลนานโพ้น ซึ่งนิยามความงามนั้นแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา อย่างในปัจจุบันผู้หญิงทุกคน (ย้ำ!! ว่าทุกคน) สามารถปั้นแต่งตัวเองให้สวยราวกับไอดอลในดวงใจได้ไม่ยากเลย เพียงถือเงินแล้วไปคลินิกเสริมความงาม
หากเป็นอดีตไม่ง่ายเลยจริงๆ ที่ทุกคนจะสวยได้เหมือนทุกวันนี้ ซึ่งมีนิยามความงามเกิดขึ้นอยู่มากแต่บางเรื่องอาจฟังดูประหลาดไปซะหน่อยในสายตาคนรุ่นใหม่
1. สตรีในยุคเรอแนซ็องส์จะถอนไรผมออก เพราะการมีหน้าผากมนกว้างเป็นตัวสำคัญในการชี้วัดความงาม
2. ทาสีที่ขาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อให้เรียวขามีรูปลักษณ์ที่สวยงามเหมือนไนลอน
3. การรัดเท้าในประเทศจีน เป็นสัญลักษณ์แห่งความงามและเพื่อไม่ให้นิ้วเท้างอกออกมาได้อีก
4. รูปทรงกระโหลกศีรษะเป็นมาตรฐานสำหรับชาวมายาโบราณ ซึ่งเริ่มปรับเปลี่ยนกะโหลกตั้งแต่ทารก ด้วยการรัดหรือถูกมัดด้วยเครื่องมือต่างๆ ทำให้หัวกะโหลกกลายเป็นรูปแบบที่ผิดเพี้ยน ไม่ว่าเด็กชายหรือเด็กหญิงต่างได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ เพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งความงาม
5. เล็บมือยาวๆ ในประเทศจีน ไม่ว่าบุรุษหรือสตรีในราชวงศ์ชิงต่างไว้เล็บยาวขนาด 8- 10 นิ้ว!! เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าพวกเขาร่ำรวยจนไม่ต้องใช้มือทำอะไร
6. ในช่วงยุคกลางจนถึงศตวรรษที่ 18 ผู้ชายจะสวมใส่ถุงน่องเช่นผู้หญิง เพื่อแสดงให้เห็นว่าน่องเรียวงามแค่ไหน
7. สตรีในยุคเรอแนซ็องส์นอกจากถอนไรผมแล้วยังกำจัดขนตาและคิ้วอีกต่างหาก ด้วยความเชื่อที่ว่าขนตาเป็นสัญลักษณ์ของความไร้ยางอาย
8. สตรีในประเทศญี่ปุ่นนิยมทำฟันดำ หลังจากที่ออกเหย้าออกเรือนแล้ว เป็นสัญลักษณ์ของความงามและความมั่นคงในชีวิตสมรส
9. ในช่วงศตวรรษที่ 18 ความนิยมหน้าสดเริ่มหายไป และเปลี่ยนมาเป็นการแต่งหน้าแบบจัดหนักจัดเต็ม มีการแปะเศษผ้าเล็กๆ บนใบหน้าโดยมีรูปร่างต่างกันแล้วแต่ความหมาย เช่น แปะที่แก้มขวาคือผู้หญิงคนนี้แต่งงานแล้ว
10. ในช่วงศตวรรษที่ 17 ขอบคอเสื้อเป็นสิ่งที่ผู้หญิงต้องการแสดง ในขณะเดียวกันความซีดจางของสีผิวบ่งบอกถึงความมั่งคั่งและไม่ถูกแสงแดดต้องตัว และเพื่อให้ดูแตกต่างจากคนงาน
11. ในช่วงสั้นๆ ในสมัยวิคตอเรียผู้หญิงที่ร่ำรวยจะเจาะหัวนมแล้วร้อยด้วยโซ่ สำหรับผู้ชายพวกเขาจะเจาะหัวของอวัยวะเพศชายเพื่อสะดวกต่อการสวมกางเกงคับๆ
12. ชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันนิยมถอนขนเพชร ซึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอายกับการมีขนอยู่ในร่างกายเปรียบเหมือนสุกร ดังนั้นจึงทำการถอนออกไปทันทีที่ขึ้นมาใหม่
13. ในช่วงศตวรรษที่ 19 ผู้หญิงต้องการมีร่องอกให้ชัดเจนกว่าเดิม จึงมีการออกแบบ Divorce corset เพื่อทำหน้าที่ในการแยกหน้าอก สร้างความต่างให้ชัดเจนขึ้น
14. สตรีชาวจีนโบราณมีความสร้างสรรค์ในสีคิ้ว โดยพวกเธอมีการเขียนคิ้วทั้งสีดำ น้ำเงิน ฟ้า เขียว หรือขี้ผึ้ง ขึ้นอยู่กับเทรนด์ ณ ขณะนั้น
13. ชาวกรีกชอบคิ้วหนาดกเป็นแพเพราะเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของสติปัญญาและความบริสุทธิ์ หากหญิงสาวใดที่ไม่มีคิ้วดกหนาเป็นธรรมชาติก็มักจะเขียนผงทาขอบตาวาดคิ้วให้โฉบเฉี่ยว
ที่มา: ranker , เรียบเรียง : Soooksan
