หากพูดถึง Iron Man คงเป็นภาพยนตร์ที่ทุกคนต้องรู้จักกันอย่างแน่นอน เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่เรียกได้ว่าเป็นหนังที่พลิกประวัติศาสตร์วงการซุปเปอร์ฮีโร่เลยก็ว่าได้ สามารถครองใจผู้ชมได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจึงอยากจะขอพาทุกคนไปพบกับเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Iron Man และ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง พร้อมแล้วไปชมกันเลย
ในบทไอรอนแมน ทอม ครูซ เกือบได้รับบทนี้แต่เขาปฏิเสธไปเพราะไม่พอใจบท แต่เมื่อถามทุกคนก็จะพูดเป็นเสียวเดียวกันว่านึกภาพ ทอม ครูซ เป็นไอรอนแมนไม่ออก
นิโคลัส เคจ ก็เป็นอีกคนที่เล็งบทไอรอนแมนไว้ แต่สุดท้าย โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ก็เป็นคนได้รับบทนี้ไป ทำให้เราได้เห็นบท โทนี่ สตาร์ค ในแบบที่กวนสุดๆ
การรับบทโทนี่ สตาร์ค ของโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ นั้นไม่ง่ายเลย เพราะต้องเล่นเป็นเศรษฐีขี้เมา ต่อต้านอำนาจรัฐ หื่นกาม และสร้างอาวุธสงคราม แต่ก็ยังเป็นฮีโร่ที่ทำให้คนรักด้วย
ความจริงแล้ว J.A.R.V.I.S จาร์วิส (Just a Rather Very Intelligent System) มีตัวตน เขาคือพ่อบ้านตระกูลสตาร์คในอดีต ที่มีชื่อว่า เอ็ดวิน จาร์วิส ซึ่งเขาทำงานให้พ่อของโทนี่ สตาร์ค โทนี่จึงเอาชื่อของเขามาตั้งเป็นชื่อให้กับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของตัวเอง โดยมีชื่อเต็มว่า “Just a Rather Very Intelligent System” ซึ่งแปลว่า “ระบบโคตรฉลาด”
ปกติแล้วเมื่ออยู่ในชุดไอรอนแมนจะสามารถยกของได้ 90,000 กิโลกรัม ซึ่งพอๆ กับ Hulk ต่อมา โทนี่ สตาร์ค ได้พัฒนาชุดของตัวเองให้สามารถยกของได้ 150,000 กิโลกรัม เผื่อจะเอาชนะ Hulk ได้
นี่คือการทดลองและพัฒนาชุดไอรอนแมนของจริง โดยบริษัท Lockheed Martin มีลักษณะเป็นชุดเกราะเพื่อช่วยทหารแบกสัมภาระที่มีน้ำหนัก 90 กิโลกรัมได้อย่างสบาย สามารถเคลื่อนที่สะดวก แต่หากจะให้แบกของได้เท่าในหนังก็จะเวอร์ไป
ในขณะเดียวกันยังทดลองสร้างชุดที่สามารถทำให้บินได้เหมือนไอรอนแมนด้วย
เมื่อ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ มีอายุข้ามตัวเลข 50 ปีไปแล้ว เขาจึงแทบจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีอายุมากที่สุดแล้ว
ในการถ่ายทำแต่ละครั้ง โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ จะฟิตร่างกายอาทิตย์ละ 5 วัน และยังต้องฝึกฝนการต่อสู้อีกสารพัดอย่าง เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด
ฮาวเวิร์ด ฮิวจ์ คือหนึ่งในบุคคลที่มีสีสันมากที่สุด เพราะเขาเป็นทั้งนักประดิษฐ์ เศรษฐี เสือผู้หญิง นักผจญภัย แถมยังดูเพี้ยนๆ ด้วย เขายังเป็นเด็กอัจฉริยะที่สามารถสร้างวิทยุเองสำเร็จตั้งแต่อายุ 11 ปี สร้างมอเตอร์ไซค์เองตั้งแต่อายุ 13 ปี พอโตขึ้นมาหน่อยเขาก็คิดค้นแท่นขุดเจาะน้ำมัน แล้วก็เครื่องบิน เขาจึงเป็นต้นแบบตัวจริงของ โทนี สตาร์ค
วีรกรรมความเพี้ยนของเขาคือ เมื่อไม่พอใจบริการของโรงแรมไหน เขาก็จะซื้อโรงแรมนั้นเลย หากไฟจากตึกไหนส่องมาแยงตา เขาก็จะซื้อและรีโนเวทใหม่ทันที หากใครอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ ฮาวเวิร์ด ฮิวจ์ แนะนำให้ไปดู Aviator เลย แสดงโดย ลีโอนาร์โด
ส่วน โทนี่ สตาร์ค ในชีวิตจริงคนปัจจุบันคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อีลอน มัสก์ เพราะเขาเป็นทั้งนักธุรกิจอัจฉริยะที่คิดค้นระบบโอนเงินออนไลน์ Paypal ทั้งผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ทั้งผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ SolarCity รวมถึงริเริ่มระบบขนส่งทางอวกาศที่เรียกว่า SpaceX ด้วย
เขามีความเป็น โทนี่ สตาร์ค ในตัวสูงมาก เพราะทำหลายๆ อย่างออกมา ซึ่งแต่ละโปรเจคก็ท้าทายทั้งนั้นเลย แต่ทุกอย่างก็ออกมาดีเสมอ น่าทึ่งในตัวเขามากๆ
Iron Man เป็นหนังที่ใช้เวลาสร้างนานถึง 17 ปี ตอนแรก Universal Pictures จะสร้างในปี 1990 แต่สุดท้ายก็ขายลิขสิทธิ์ให้ 20th Century Fox และก็ขายต่อให้ New Line Cinema อีก จนสุดท้าย Marvel Studio จึงตัดสินใจสร้างออกมาอย่างปังเวอร์วังอลังการเลยทีเดียว
เวลาถ่ายฉากสำคัญๆ ผู้กำกับมักจะบอกนักแสดงประกอบว่า “เรากำลังเล่นฉากในความฝัน” เพื่อไม่ให้ใครเอาเนื้อหาในแต่ละฉากไปสปอยล์ได้
นี่เป็นชุดเกราะไอรอนแมนที่มีทำหนักกว่า 40 กิโลกรัมเลยทีเดียว
นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราไม่เคยเห็น โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ แต่งชุดเต็มยศเลย มันทั้งหนัก ทำอะไรไม่สะดวก ที่เราเห็นความเคลื่อนไหวของเขานั้นส่วนมากเป็นการใช้ CG หรือไม่ก็สวมโดยสตั๊นแมนที่ชื่อเคลย์ ส่วน โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ สวมจริงแค่บางซีนเท่านั้น และสวมแค่บางชิ้นเท่านั้น
ชุดไอรอนแมนในตอนแรกจะเป็นสีเงินเมทัลลิก แต่มันดูน่ากลัวเกินไป จึงถูกแนะนำให้เปลี่ยนเป็นสีแดง และมีสีทองเข้าไปแซมด้วย
หากพูดถึงทรัพย์สินของโทนี่ สตาร์ค นั้น แค่ชุดไอรอนแมนก็มีมูลค่ากว่า 123 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.6 พันล้านบาท) แล้ว ยังมีทรัพย์สินอื่นๆ อีก ทั้งคอมพิวเตอร์และหุ่นยนต์รบอีก 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.3 หมื่นล้านบาท) และรถทั้งหมด 3.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 100 ล้านบาท) เป็นเงินทั้งสิ้น 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.7 หมื่นล้านบาท)
แม้ว่า โทนี สตาร์ค จะมีทรัพย์สินมากขนาดนี้ แต่กลับถูกจัดให้เป็นตัวละครที่รวยที่สุดอยู่ในอันดับ 5 ส่วนอันดับหนึ่งนั้นตกเป็นของ เจ้ามังกรสม็อก แห่งมิดเดิลเอิร์ธ นั่นเอง
หากฉากไหนเราเห็นโทนี่ สตาร์ค หยิบขนมมาชวนคนนั้นคนนี้กิน ให้รู้ไว้เลยว่าไม่มีในสคริปต์ แต่เป็นขนมที่ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ แอบเอาเข้ามากินในกองถ่าย แต่ไม่มีใครจับได้เลยสักครั้ง แต่ถึงจู่ๆ เค้าจะหยิบขนมขึ้นมาแต่ผู้กำกับก็ไม่สั่งคัท เพราะผู้กำกับมองว่ามันดูเป็น โทนี่ สตาร์ค สุดๆ
อีกอย่างที่ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ชอบทำคือ ชอบพูดนอกบท และมันก็เป็นอะไรที่ทำให้เพื่อนร่วมซีนต้องตั้งสติรับมุกเขาให้ทันด้วย เพื่อให้ซีนนั้นผ่านไปได้ด้วยดี
โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ยังเป็นคนออกแบบถุงมือของโทนี่ สตาร์ค ใน Civil War เองด้วย เขาเคยเปรยกับผู้กำกับไว้ว่าอยากให้ โทนี่ สตาร์ค มีนาฬิกาที่เปลี่ยนเป็นถุงมือได้ ซึ่งตอนแรกผู้กำกับฟังแล้วหัวเราะ แต่สุดท้ายมันก็เป็นไอเดียและได้ใช้จริงในภาคนี้
ในช่วงนั้น Iron Man 3 ขึ้นอันดับ 1 Box Office เกือบทั่วโลก ทำรายได้อย่างมากมาย แต่ยกเว้นที่ญี่ปุ่น เพราะเข้าชนโรงกับโคนันพอดี
เรียบเรียง : Soooksan
