8 สี ที่ปรากฎในภาพยนตร์ มีความหมายทั้งดีและร้ายซ่อนอยู่

1435

ในภาพยนตร์แต่ละเรื่องผู้สร้างมักจะใส่เทคนิควิธีการมากมายเพื่อสร้างอารมณ์ความรู้สึกให้กับผู้ชมได้มากที่สุด แต่คุณเคยสังเกตเทคนิกการใช้สีของทีมผู้สร้างกันหรือไม่ว่ามันสื่อถึงอะไรบ้าง

วันนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับอิทธิพลของสีที่ไม่ใช่แค่ความสวยงามบนหน้าจอเท่านั้น แต่มันยังสื่อถึงอารมณ์ของตัวละครอีกด้วย พร้อมแล้วไปชมกันเลย

1. สีชมพู

ฉากที่เป็นสีชมพูจะสื่อถึง ความรัก ความบริสุทธิ์ และความสุข อย่างในเรื่อง The Grand Budapest Hotel จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับรักโรแมนติกแบบเด็กๆ ระหว่างซีโรและอกาธา และความบริสุทธิ์ใจ และการช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจของอกาธา

สีชมพูในอีกความหมายคือ การเสแสร้งของตัวร้าย ทำตัวไร้เดียงสาเพื่อปิดตัวตนที่แท้จริง และสวมใส่ชุดสีชมพูเพื่อให้ดูเป็นมิตร

ฉากสีชมพูแบบนี้เราสามารถเห็นได้จากเรื่อง Mean Girls หรือในเรื่อง Harry Potter and the Order of the Phoenix เราจะเห็นศาสตราจารย์อัมบริดจ์สวมชุดสีชมพูอยู่ตลอดเวลา ห้องทำงานของเธอก็เป็นสีชมพูด้วยเช่นกัน

2. สีขาว

ฉากสีขาวสื่อถึงความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ความรัก สันติสุข และความเยาว์วัย รวมถึงความสันโดษ หรือการตายก็ได้

อย่างในเรื่อง Harry Potter and the Deathly Hallows ภาค 2 เราจะเห็นฉากสีขาวในฉากที่แฮร์รีใกล้ตายนั่งอยู่กับวิญญาณของดัมเบิลดอร์ เขายังสวมชุดสีขาวด้วย สีขาวนี้ก็หมายถึงความตาย รวมถึงสื่อถึงความสงบสุขของดัมเบิลดอร์ด้วย และความเสียสละตัวเองเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นของแฮร์รีอีกด้วย

3. สีแดง

ฉากไหนที่เป็นสีแดง จะเป็นการสื่อถึงพลังบวก เช่น ความรัก ความหลงใหล อย่างในเรื่อง Her (2013) ตัวละครสวมเสื้อสีแดง ภาพบนจอเป็นสีแดง รวมถึงกำแพงก็เป็นสีแดง

ภาพยนตร์เรื่อง Her เป็นแนวโรแมนติกดรามา ฉากนี้เป็นการสื่อถึงความรักโดยไม่มีคำพูดใดๆ

แต่อีกมุมสีแดงจะสื่อถึงพลังด้านลบ เช่น ความโกรธ ความรุนแรง ความอันตราย อย่างในภาพยนตร์เรื่อง 2001: A Space Odyssey ของสแตนลีย์ คูบริก

ซึ่งสีแดงได้แสดงถึงสถานการณ์ที่เลวร้าย ตัวละครกำลังตกอยู่ในอันตราย และต้องหาวิธีเอาตัวรอดให้ได้

4. สีเหลือง

ฉากที่มีสีเหลืองมักจะสื่อถึงความสุข ความร่าเริง หรือความไร้เดียงสาของเด็กๆ อย่างในภาพยนตร์เรื่อง Moonrise Kingdom ฉากของ เวส แอนเดอร์สัน ที่เต็มไปด้วยสีเหลือง

แต่ในภาพยนตร์สั้นเรื่อง Hotel Chevalier สีเหลืองนั้นจะสื่อถึงอารมณ์ หรือบรรยากาศที่แสนสงบ

ในขณะเดียวกันสีเหลืองยังสื่อถึงพลังลบ อย่างเช่น การทรยศ ความขี้ขลาด ความริษยา หรือความเจ็บป่วย

จากเรื่อง Birdman ฉากของ ไมเคิล คีตัน ที่เธอกำลังทะเลาะกับลูกสาวที่รับบทโดย เอ็มมา สโตน ฉากสีเหลืองนี้แสดงถึงความขมขื่นที่กำลังเกิดขึ้น

5. สีเขียว

ฉากที่มีสีเขียนจะสื่อถึงความมีสุขภาพดี การรักษา ความอ่อนเยาว์ และความอุตสาหะ อย่างในเรื่อง Gravity ที่รับบทโดย แซนดรา บูลล็อก ที่ขึ้นมาจะน้ำ เป็นการสื่อถึงการมีชีวิตรอดอีกครั้ง การได้รับโอกาสครั้งใหม่

สีเขียวในอีกความหมายคือ กำลังทรุดโทรม รวมถึงความไม่สะบายใจด้วย อย่างในเรื่อง ภาพยนตร์เรื่อง The Matrix

6. สีน้ำเงิน

ฉากสีน้ำเงินเป็นการสื่อถึง ความรู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกศรัทธา รู้สึกสงบ รู้สึกภักดี รู้สึกปรองดอง รู้สึก พึงพอใจ รู้สึกถึงความจริง และรู้สึกไว้วางใจ

จากภาพยนตร์เรื่อง The Trueman Show เราจะเห็นฉากสีน้ำเงินจากตัวละครของจิม แคร์รีย์ อยู่ตรงบันไดเพื่อออกจากโลกสมมุติของเขา ซึ่งมันเต็มไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าและท้องฟ้าสีคราม แต่สุดท้ายเขาก็ต้องออกมาสู่โลกภายนอก

แต่สีน้ำเงินในอีกความหมายจะสื่อถึงพลังเชิงลบ อย่างในเรื่อง Moonrise Kingdom ที่เคยพูดถึงมาก่อน

ตัวละครดีก็สวมเสื้อผ้าสีเหลือง แต่ตัวร้ายที่รับบทโดย ทิลดา สวินตัน ก็สวมชุดสีน้ำเงิน จะสื่อถึงความเย็นชาของตัวละคร

7. สีม่วง

ฉากสีม่วงสื่อถึงความลึกลับ และรวมถึงอนาคตและเทคโนโลยี เรามักจะเห็นฉากสีม่วงในภาพยนตร์ไซไฟ อย่างในเรื่อง Blade Runnder 2049

สีม่วงในอีกความหมายคือ ความโหดร้ายและความเย่อหยิ่ง ที่เรามักจะเห็นได้จากบรรดาตัวร้าย อย่างในเรื่อง The Princess and the Frog ที่ฉากของเขาเป็นสีม่วงทั้งหมด

8. สีส้ม

ฉากสีส้มสื่อถึงพลังความอบอุ่น ความกระตือรือร้น และการมีพลัง

แต่ในทางตรงกันข้ามสีส้มก็ยังสื่อถึง ความสิ้นหวัง ความอันตราย ไม่มีชีวิตชีวา เราจะเห็นได้จากภาพยนตร์เรื่อง Mad Max: Fury Road เป็นฉากที่ทำให้รู้สึกสิ้นหวังในวันสิ้นโลก และในเรื่อง Blade Runner 2049 ในวันที่ลาสเวกัสกลายเป็นเมืองร้าง

ทั้งหมดนี้ก็คือสีสันที่ปรากฎให้เห็นในภาพยนตร์ ต่อไปนี้หากคุณได้ชมภาพยนตร์ก็ลองสังเกตกันดู ว่าฉากของตัวละครแต่ละตัวจะปรากฎสีอะไรขึ้นมา อาจจะทำให้คุณเข้าใจผู้สร้างภาพยนตร์มากขึ้นก็เป็นได้

ที่มา : brightside , เรียบเรียง : Soooksan