10 บุคคลที่เอาชนะขีดจำกัดของมนุษย์ได้

459

คนทุกคนล้วนมีขีดจำกัดระดับหนึ่งในร่างกายของตัวเอง แต่การก้าวผ่านขีดจำนั้นเป็นไปได้เสมอ แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่สมองของเราก็สามารถควบคุมขีดจำกัดเหล่านั้นได้เสมอ นั่นจึงเป็นที่มาของการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง วันนี้เราจึงได้นำเรื่องราว 10 บุคคลที่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองมาให้ได้ชมกัน จะน่าทึ่งขนาดไหนไปชมกันเลย

1. Josh Sundquist กลายเป็นนักกีฬาพาราลิมปิก หลังสูญเสียขาไปข้างหนึ่ง

เมื่อตอนอายุ 10 ขวบ Josh ได้เสียขาซ้ายไปด้วยการเป็นโรคมะเร็งกระดูกชนิดหายาก และเขาหายจากการเป็นมะเร็งตอนอายุ 13 ปี และอีก 3 ปีต่อมาเขาได้เริ่มฝึกเล่นสกี

6 ปีต่อมาหลังจากที่ฝึกฝนมานาน เขาได้กลายเป็นสมาชิกของทีมสกี US Paralympic ปัจจุบันนอกจากเขาจะเป็นนักเขียนที่มียอดขายดีที่สุด แล้วยังเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจอีกด้วย

2. George Dantzig แก้ปัญหาคณิตศาสตร์ได้โดยบังเอิญ

นักศึกษาปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัย University of California อย่าง George Dantzig เขาได้ทำทำโจทย์ที่อาจารย์เขียนไว้บนกระดาษโดยคิดว่ามันคือการบ้าน ทำให้เขาพบทฤษฎีทางสถิติ 2 ข้อ

โดยแท้จริงแล้วนั้นคือโจทย์ที่ไม่สามารถแก้ได้ แต่เขากลับบ้านและได้พยายามแก้โจทย์ปัญหานั้นอย่างตั้งใจ และแก้มันสำเร็จ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์เขาเอง

3. Jason Padgett กลายเป็นอัจฉริยภาพด้านคณิตศาสตร์หลังได้รับบาดเจ็บในสมอง

Jason Padgett หลังจากที่เขาถูกทำร้ายอย่างรุนแรงจนทำให้สมองของเขาได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาอีกอย่างคือ เขาสามารถมองโลกผ่านเลนส์รูปทรงเรขาคณิตได้ด้วย

ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาเป็นเพียงพนักงานขายเฟอร์นิเจอร์ แต่การโดนทำร้ายครั้งนั้นสิ่งที่เขาได้รับกลับมาคือ การมองเห็นวัตถุทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนและแนวคิดฟิสิกส์เจ๋งสุดๆ

เขาคือกลุ่มตัวอย่างของผู้ป่วยโรคอัจฉริยะ (Savant Syndrome) อ้างอิงจากนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งการหายจากการเป็นโรคร้ายแรงหรือได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้คนปกติอาจจะได้รับความสามารถพิเศษกลับมา

4. Reinhold Messner เป็นคนแรกที่ปีนเขาเอเวอร์เรสต์โดยไม่ใช้ถังออกซิเจนสำรอง

เจ้าของสถิติมากมายอย่าง Reinhold Messner เมื่อปี 1978 เขาเป็นคนแรกที่ปีนภูเขาโดยไม่ใช้ถังออกซิเจนสำรองเลย ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย

เมื่อตอนที่เขาอายุ 5 ขวบ เป็นครั้งแรกที่เขาปีนถึงยอด และยังพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสเพียงลำพังเป็นคนแรกด้วย

เมื่อปีนเขาที่มีระดับความสูงมากๆ และไม่ได้ใช้ออกซิเจนเพิ่มนั้น ร่างกายจะผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงมากขึ้น จากการถูกบังคับให้ใช้งานมากเกินไป เลือดจึงไหลเวียนช้าและตันในที่สุด

5. Jure Robic เป็นผู้ชนะ 5 ครั้งติด ในการแข่งขันปั่นจักรยานระยะทาง 4,800 กิโลเมตร

เจ้าของสถิติการปั่นจักรยานชาวสโลวีเนียคนนี้เขาปั่นโดยไม่หยุด 834.77 กิโลเมตร เขานอนวันแค่ละวัน 1 ชั่วโมงเท่านั้นในระหว่างสัปดาห์การแข่งขัน เขาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ที่มีความอดทนสูง

ซึ่งความลับของเขาคือเขาปฏิเสธการสั่งการของสมองเกี่ยวกับความเมื่อยล้า จะฟังเฉพาะเมื่อเขาตัดสินใจจะพัก จะกิน และการไปสู่เป้าหมายโดยเร็วที่สุด อ้างอิงจากนักวิทยาศาสตร์

6. Herbert Nitsch สามารถดำน้ำลึกถึง 253 เมตร

Herbert Nitsch นักประดาน้ำชาวออสเตรีย เขาได้สร้างสถิติโลกมากมายหลายครั้ง และ 1 ใน 33 สถิติที่น่าประทับใจที่สุดคือ การดำน้ำลึก 253.2 เมตร

ครั้งนั้นเนื่องจากไนโตรเจนทำให้เกิดความง่วง เขาจึงเผลอหลับไปชั่วครู่ ทำให้เขาพลาดแผนหยุดการบีบอัดจนได้รับบาดเจ็บจากการบีบอัด เนื่องจากมีความรุนแรงเขาจึงต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานานเลยทีเดียว

และเขาได้กลับสู่วงการดำน้ำอีกครั้งเมื่อผ่านไปหลายปี เขายังคงฝึกซ้อมเพื่อที่จะดำสู่ความลึกนั้นอีกครั้งแน่นอน

7. Chul Soon จากที่น้ำหนักแค่ 56 กิโลกรัม สู่การเป็นอาร์โนลด์แห่งเอเชีย

ตอน Chul Soon อายุได้ 20 ปี เขามีน้ำหนักเพียงแค่ 56 กิโลกรัม ด้วยความผอมแห้งของเขาทำให้เขาถูกเพื่อนแกล้งอยู่บ่อยๆ

แต่เมื่อ 12 ปีก่อน เขาได้ตัดสินใจเริ่มออกกำลังกายด้วยการลุกนั่ง 3,000 ครั้งต่อวัน และเขาก็ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จนกลายเป็นนักเพาะกายที่โด่งดังที่สุดในเกาหลีเลย

8. Randy Gardner ไม่นอนเป็นเวลา 11 วัน

Randy Gardner ในวัย 17 ปี เมื่อปี  1964 เขาไม่ได้นอนนาน 11 วัน 25 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่เขาใช้ทำการทดสอบวิทยาศาสตร์นั่นเอง ระหว่างนั้นร่างกายของเขาก็ได้มีการทดสอบ ความรู้ความเข้าใจ ความสามารถทางกายภาพ และประสาทสัมผัส

ซึ่งวันสุดท้ายของการทดสอบการทดสอบสิ้นสุดลงมันกลายเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากเพราะ เขาไม่มีอาการเหมือนคนอดหลับอดนอนเลย แถมพูดได้ไม่มีสดุด

9. ดร. Katsioulis ผู้มี IQ 198 ซึ่งสูงที่สุดในโลก

เป็นจิตแพทย์และนักจิตบำบัดชาวกรีกอย่าง Evangelos Katsioulis รวมถึงเป็นผู้ก่อตั้งสังคมคนที่มีความฉลาดเป็นเลิศอย่าง World Intelligence Network

ค่าเฉลี่ยในการทดสอบ IQ ปกติแล้ว คือ 100 ในขณะที่คนส่วนมากมี IQ อยู่ระหว่าง 85 และ 114 แต่ Evangelos มี IQ อยู่ที่ 198

เขาได้กล่าวไว้ว่า “พลังจิตของมนุษย์จะสามารถส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ผลที่ออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด” เขาเชื่อในพลังจิตมนุษย์

10. Concetta Antico สามารถมองเห็นสีมากกว่าคนทั่วไปถึง 100 เท่า

สายตาของคนปกติจะสามารถมองเห็นสีมากที่สุดอาจไม่เกิน 1 ล้านสี แต่ก็มีภาวะที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของยีนที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาของจอตา ที่เรียกว่า เตตราโครมาซี (Tetrachromacy)

ซึ่ง Antico เป็นเพียง 1% เท่านั้นที่มีภาวะเตตราโครมาซี เธอมีแกลเลอรีของตัวเองในซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแต่ละภาพล้วนมีสีสันสดใสมากๆ

และเธอกำลังจะพัฒนาระบบการฝึกอบรมเพื่อช่วยให้คนได้ตระหนักถึงศักยภาพของตัวเอง และมีภาวะเตตราโครมาซี

ที่มา brightside , เรียบเรียง : Soooksan