10 ภาพความแตกต่าง “เมื่อวาน vs วันนี้” ห่างกันแค่วันเดียว

1205

คุณกำลังคิดผิด หากคุณคิดว่าเวลาเพียงแค่วันเดียวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เพราะโลกนี้ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญหลายอย่าง ล้วนแต่พลิกทุกอย่างจากหน้ามือเป็นหลังมือเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น วันนี้เราจึงขอพาทุกคนมาชมความแตกต่างของภาพก่อนและหลังการเปลี่ยนแปลง ที่ห่างกันเพียงแค่วันเดียว พร้อมแล้วไปชมกันเลย

1. ภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ระเบิด ในปี 1980

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิเมื่อปี ค.ศ. 1980 ในรัฐวอชิงตันได้เกิดระเบิดขึ้นที่ภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ เป็นการระเบิดที่รุนแรง จนมีปริมาณเถ้าถ่านสูงหลายร้อยกิโลเมตร และเกิดดินถล่มที่ผสมไปด้วยลาวาที่ร้อนเผาทุกสิ่งในบริเวณใกล้เคียงจนทุกอย่างเปลี่ยนไปในวันเดียว

2. เชอร์โนบิล, สหภาพโซเวียต

เนื่องจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าเมื่อปี 1986 ที่เมืองเล็กอย่างเชอร์โนบิลและพรีเพียต เกิดระเบิดขึ้นที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ สารกัมมันตรังสีได้กระจายไปสู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้ผู้คนกว่า 3 แสนคนต้องอพยพออกจากพื้นที่ และกลายเป็นเมืองร้างมาจนถึงทุกวันนี้

3. หิมะตกในทะเลทรายแอฟริกา

การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างกระทันหัน ส่งผลให้เกิดสภาวะอากาศแปรปรวนและทำให้เกิดฤดูหนาวที่แท้จริงได้ แม้แต่ทะเลทรายซาฮาราที่ถูกปกคลุมพื้นที่บางส่วนด้วยชั้นหิมะที่หนา ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

4. สึนามิในประเทศญี่ปุ่น

คลื่นสึนามิที่มีความรุนแรงมหาศาลแบบที่ไม่เคยพบมาก่อน จากแผ่นดินไหวในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้กับทางตะวันออกของชายฝั่งฮอนชู โดยมีความสูงคลื่นถึง 40 เมตร คลื่นยักษ์ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ธรรมชาติแสดงให้เห็นว่า สามารถทำลายมนุษย์ได้ในเวลาแค่วันเดียว

5. การล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน

จากที่ฮิตเลอร์พ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ฝ่ายพันมิตรได้เข้ามาแบ่งประเทศเยอรมันออกเป็น 4 ส่วน เพื่อให้ประเทศที่ชนะสงครามครั้งนั้นปกครอง ซึ่งได้แก่ อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และโซเวียต ในเวลาต่อมา 3 ประเทศแรกได้จัดตั้งประเทศร่วมกันคือ “เยอรมนีตะวันตก” และปกครองแบบประชาธิปไตย ส่วนโซเวียตปกครอง “เยอรมนีตะวันออก” แบบคอมมิวนิสต์ และสร้างกำแพงเบอร์ลินยาวกว่า 155 กิโลเมตรมากั้นในปี 1961

จากการแบ่งกันปกครองเราจะเห็นว่าเยอรมนีตะวันตกเจริญขึ้นเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด ต่างจากเยอรมนีตะวันออก ทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ฝั่งตะวันออกพยายามข้ามกำแพง และโทษของพวกเขาคือการถูกยิงทิ้ง จนกระทั่ง 28 ปีต่อมา ในปี 1989 กำแพงเบอร์ลินได้ถูกทำลายลง กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ชาวโลกไม่มีวันลืม

6. พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์

เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2017 รัฐเท็กซัสของเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ เกิดฝนตกอย่างหนักในพื้นที่เท็กซัสหลายส่วน จนเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ จากภาพเราจะเห็นว่ามันสูงมากจนท่วมขึ้นมาถึงทางด่วน

7. เหตุการณ์ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในปี 1929

เหตุการณ์ตลาดหลักทรัพย์ตกครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่นาน 12 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ตลาดเติบโตต่อเนื่อง 6 ปี ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 5 เท่า ก่อนวันที่ 24 ตุลาคม จะเป็นจุดเริ่มการเทขายครั้งใหญ่ และไม่นานตลาดหุ้นสหรัฐก็ถึงจุดตกต่ำที่สุดและไม่กลับขึ้นมาถึงจุดเดิม จนกระทั่งปี 1954 หรืออีก 25 ปีต่อมา

8. แผ่นดินไหวที่เฮติ เมื่อปี 2010

ในวันที่ 12 มกราคม 2010 ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.0 โดยศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองหลวงของเฮติไปราว 25 กิโลเมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิตระหว่าง 2.1-2.3 แสนคน ได้รับบาดเจ็บกว่า 3 แสนคน อีก1 ล้านคนไม่มีที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นความสูญเสียที่ประเมินเป็นมูลค่าไม่ได้

9. พายุเฮอร์ริเคนแคทรีนา

ในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ในเมืองนิวออร์ลีนส์เมื่อปี 2005 ได้เกิดพายุเฮอร์ริเคน ถือเป็นระดับ 5 ซึ่งเคยเกิดบนโลกนี้มาก่อนหน้านี้เพียงแค่ 3 ครั้ง ครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายให้แก่ชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิต 1,836 คน สูญหาย 705 คน ประชากรกว่า 5 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้

10. สีนามิถล่มในปี 2004

เหตุการณ์แผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดียใกล้กับทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสุมาตรา เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2004 รุนแรงระดับ 9.1-9.3 ประเทศต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้รับผลกระทบ ตั้งแต่อินโดนีเซีย ศรีลังกา อินเดีย และประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตมากถึง 2.3-2.8 แสนคน

ที่มา : brightside , เรียบเรียง : Soooksan