มีเรื่องราวมากมายที่ทำให้มีผู้คนหลงเชื่อกันแบบผิดๆ มาจนถึงปัจจุบันซึ่งนำไปสู่ความคิดที่แตกต่างกันออกไป แม้กระทั่งเรื่องการเดินทางไปดาวอังคาร ก็ยังมีบางคนคิดว่าเป็นเรื่องโกหก แม้จะมีข้อพิสูจน์จากวิทยาศาสตร์บนโลกของเรามากมาย ก็ยังไม่หยุดความคิดในเรื่องทฤษฎีสมคบคิดได้
วันนี้เราจะมาบอกเล่าถึงทฤษฎีที่ยังมีคนถกเถียงกันอยู่ พร้อมข้อพิสูจน์ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นทางวิทยาศาสตร์มาให้ได้ติดตามกัน พร้อมแล้วไปชมกันเลย
1. เชื่อว่าโลกแบน
หลายคนยังเชื่อกันว่าโลกแบนแม้ว่านาซ่าและหน่วยงานด้านอวกาศทั่วโลกจะมีภาพถ่ายยืนยันว่าโลกกลมแล้วก็ตาม พวกเขาก็ยังคงยึดติดว่าโลกมีลักษณะเหมือนจานและมีศูนย์กลางจากวงกลมอาร์กติกและแอนตาร์กติกา
ความจริง: นาซ่าได้บันทึกภาพถ่ายและวีดีโอจากมุมสูงมาพิสูจน์ เราจะเห็นเส้นขอบฟ้าเป็นเส้นโค้ง หากโลกแบนสายตาของเราจะไม่เห็นถึงระดับความแตกต่างในภาพเลย
2. เชื่อว่าพระจันทร์เต็มดวงส่งผลต่อพฤติกรรม
มีเรื่องเล่าในตำนานบอกว่าอาชญากรรมที่เกิดบนโลกจะส่งผลต่อพระจันทร์เต็มดวง และทำให้อารมณ์ของคนเราแปรปรวนจนเป็นบ้าได้
ความจริง: จากการศึกษาพบว่าความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นไม่ได้เชื่อมโยงกับพระจันทร์เต็มดวงแต่อย่างใด จากสถิติช่วงพระจันทร์เต็มดวงส่วนมากจะเป็นวันหยุดที่คนส่วนมากนิยมไปพักผ่อนที่สวนสาธารณะ จึงมีโอกาสเกิดเหตุอาชญากรรมมากขึ้นตามไปด้วย
3. ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับวัคซีน
จากผลสำรวจชาวอเมริกา 45% พวกเขาสงสัยในประสิทธิภาพของวัคซีนอาจมีผลในแง่ลบต่อร่างกายของพวกเขา จึงไม่ให้ลูกหลานของพวกเขาฉีดวัคซีน และผลสำรวจขององค์การอนามัยโลกระบุไว้ว่า การไม่รับวัคซีนเป็นหนึ่งในสิบภัยร้ายต่อสุขภาพโลกในปี 2019
ความจริง: วัคซีนช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี อย่างไอกรนซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ ที่หายไปนานแล้ว แต่เริ่มกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง และทำให้เด็กเสียชีวิตไปบ้างแล้ว
4. เชื่อว่าออสเตรเลียไม่มีจริง และประชาชนในประเทศเป็นนักแสดง
เชื่อกันว่าออสเตรเลียไม่มีจริง โดยเรื่องราวนี้ได้ถูกตีพิมพ์ในนิตยสารหลายฉบับ ที่ว่ามหาวิทยาลัยโอไฮโอระบุว่าอังกฤษสังหารนักโทษทั้งหมด โดยไม่ได้ส่งนักโทษไปยังออสเตรเลีย และเกาะดังกล่าวไม่มีอยู่จริง
ความจริง: เพียงแค่คุณไปขอวีซ่าและบินไปที่ออสเตรเลียก็พิสูจน์ความจริงดังกล่าวได้แล้ว เพราะมีสายการบินมากมายมีเที่ยวบินไปออสเตรเลียทุกวัน
5. เชื่อเรื่อสัตว์ประหลาดลอคเนสส์
ความเชื่อพื้นเมืองเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในทะเลสาบ ลอคเนสส์ อย่างเนสซีหรือสัตว์ประหลาดลอคเนสส์ ที่ถูกบันทึกภาพถ่ายของมันเอาไว้ ทำให้เพิ่มความเชื่อมากยิ่งขึ้น แถมยังมีคนอ้างอีกว่าพบเห็นตัวของมันอีกด้วย
ความจริง: ในทะเลสาบลอคเนสส์โดยมีการพิสูจน์แล้วว่า ภาพถ่ายนั้นถูกปลอมแปลงขึ้นมา จากการสำรวจพบว่าสิ่งมีชีวิตนั้นอาจเป็นเพียงปลาไหลยักษ์หรือแมวน้ำเท่านั้น
6. เชื่อว่าพระจันทร์มีด้านมืด
เนื่องจากเราไม่อาจเห็นพระจันทร์ในรูปแบบครบถ้วน 100% จึงเชื่อกันว่า ส่วนที่มองไม่เห็นถูกแช่แข็งและมืดมิดไร้แสงอาทิตย์ และความเชื่ออีกอย่างคือเรื่องของการล็อกคลื่นจากโลกที่ทำให้พระจันทร์ไม่หมุนไปทางอื่น
ความจริง: เรื่องนี้พิสูจน์ได้ด้วยข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์ เมื่อเราเห็นดวงจันทร์เต็มดวงมันหมายความว่าดวงอาทิตย์ส่องแสงจากด้านข้าง ทำให้เราเห็นแบบครบถ้วน ในขณะที่จันทร์เสี้ยวที่เราเห็นเกิดจากการที่แสงอาทิตย์ส่องไปด้านอื่นของดวงจันทร์ ทำให้เรามองเห็นเพียงบางส่วน
7. เชื่อว่าโลกร้อนเป็นเรื่องเหลวไหล
หลายคนเชื่อว่าโลกร้อนไม่ได้เป็นผลที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งมีกลุ่มคนจากเหล่าบริษัทน้ำมันและกลุ่มอุตสาหกรรม ตั้งข้อสงสัยในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก
ความจริง: ได้มีข้อพิสูจน์จากศึกษามากมายว่าสภาพอากาศของโลกเปลี่ยนโดยฝีมือของมนุษย์ ซึ่งต้นเหตุสำคัญในการทำให้โลกร้อนขึ้นคือก๊าซเรือนกระจก ตามวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากมายกว่า 11,600 ชิ้น และภาวะโลกร้อนยังส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกใบนี้
ในไทยเราก็มีความเชื่อที่ผิดมากมายเช่นกัน ทั้งเรื่องน้ำผุดจากดินว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ เรื่องของตุ๊กแกที่จะมากินตับเด็ก และเรื่องเล่าในตำนานอีกมากมาย
ที่มา : brightside , เรียบเรียง : Soooksan