15 สิ่งที่เกิดในหนัง แต่มันไม่มีใครทำแบบนี้ในชีวิตจริง

122908

ในโลกภาพยนตร์ล้วนมาจากจินตนาการของผู้เขียนบทและผู้กำกับ ซึ่งหลายสิ่งหลายอย่างมันผิดเพี้ยนไปจากความจริงมาก หลายครั้งที่ผู้สร้างภาพยนตร์เหล่านี้ได้ศึกษาเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ผ่านชีวิตจริงของผู้คน แต่พวกเขากับไม่ได้เขียนบทให้ออกมาเหมือนในชีวิตจริงทั้งหมด

วันนี้เราจึงนำความผิดพี้ยนที่เกิดขึ้นในโลกภาพยนตร์ มาให้ทุกท่านได้ชมกันว่าจะต่างจากความจริงมากขนาดไหน พร้อมแล้วไปชมกันเลย

1. ชุดเกราะ

ดูเหมือนว่าในภาพยนตร์เราจะเห็นว่าชุดเกราะถูกสร้างมาเพื่อให้ผู้ชายดูน่าเกรงขาม และทำให้ผู้หญิงดูน่าดึงดูด แต่ในความเป็นจริงชุดเกราะถูกสร้างมาเพื่อปกป้องทุกส่วนของร่างกาย มันทั้งใหญ่ และดูแข็งแรง นอกจากนั้นยังทำให้การเคลื่อนไหวไม่สะดวก

2. การเปลี่ยนรูปโฉมอันน่าทึ่ง

การแปลงโฉมของนางเอกในภาพยนตร์ บ่อยครั้งที่เราเห็นสวมใส่ชุดธรรมดาในตอนแรก และเมื่อพวกเธอเปลี่ยนชุด หรือเพียงการแต่งหน้าก็สามารถทำให้เธอกลายเป็นคนสวยได้ทันที จนพระเอกและผู้ชายคนอื่นๆ ต่างอ้าปากค้าง ซึ่งในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากกับการเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้

3. ตะโกนเรียกแท็กซี่

การเรียกแท็กซี่ในภาพยนตร์เรามักจะเห็นบ่อย โบกไปพร้อมกับตะโกนเรียก “แท็กซี่” แต่ในความเป็นจริง เราก็แค่ยืนโบกมือเฉยๆ เท่านั้น เพราะถึงเรียกไปแท็กซี่ที่ขับมาไกลลิบๆ ก็ไม่มีวันได้ยินเสียงคุณแน่นอน

4. ลูกดอกยาสลบ

การยิงลูกดอกยาสลบในภาพยนตร์ สามารถทำให้คนอื่นหลับด้วยลูกดอกยาสลบได้ ซึ่งในความเป็นจริงมันยากมากที่จะคำนวณปริมาณยาสลบให้เข้ากับทุกคน และที่สำคัญลูกดอกยาสลบก็เป็นอาวุธที่หายากแล้ว ส่วนใหญ่ที่ยังใช้ก็เป็นการใช้กับสัตว์ก็ต้องใช้เวลาในการออกฤทธิ์หลังจากถูกยิงไปสักพักใหญ่ๆ ไม่ได้เป็นอย่างในภาพยนตร์ที่จะยิงปุ๊บสลบปั๊บ

5. คลอดลูก

ทุกสิ่งเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอดในภาพยนตร์ดูไม่ค่อยสมจริง ตลอดระยะเวลา 9 เดือน แม่จะไม่มีอาการใดๆ จนมาปวดท้องและคลอดในอีก 1 ชั่วโมงต่อมา และเด็กมีตัวขนาดใหญ่กว่าเด็กแรกเกิดจริง แถมเนื้อตัวยังสะอาด ซึ่งแตกต่างจากในความเป็นจริงมาก

6. บาดแผลและอาการโคม่า

ในภาพยนตร์ไม่ว่าตัวละครจะได้รับบาดเจ็บ ไม่ว่าจะโดนแทง โดนยิงหรือทะเลาะวิวาท พวกเขาสามารถฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาล สามารถดึงสายน้ำเกลือและเข็มออก และพร้อมออกไปลุยกับศัตรูต่อได้ ซึ่งในความเป็นจริงอาการโคม่าตัองใช้เวลานานถึงจะหายดีกลับมาเป็นปกติได้

7. ไม่มีเวลาอธิบาย

เรามักจะเห็นบ่อยครั้งในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน  ตัวละครมักจะพูดแค่ว่า “รีบไปเถอะ ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว” ซึ่งในความเป็นจริงมันง่ายกว่ามากถ้าคุณอธิบายคนอื่นด้วยประโยคสั้นๆ เช่น “พวกมันกำลังตามมา” หรือ “เราต้องหนีจาก…” หรือ “มันจะฆ่าพวกเรา”

8. คอมพิวเตอร์

แป้มพิมพ์ของบรรดาแฮกเกอร์มักจะมีเสียงดังมาก หน้าตาซอฟต์แวร์ที่เหมือนถูกออกแบบโดยเด็กอายุ 3 ขวบ อย่างในซีรีย์ NCIS นั้นไปไกลมาก เพราะเขาให้ตัวละคร 2 คนมาใช้งานแป้นพิมพ์อันเดียวกัน (ไม่ตรงกับความเป็นจริงเลยสักนิด)

9. นักวิทยาศาสตร์ที่รู้ทุกสิ่ง

หากคุณเห็นตัวละครที่ใส่เสื้อคลุมสีขาวในห้องแล็ป ให้รู้ไว้เลยเขาคือคนที่เก่งกาจในวิทยาศาสตร์ ที่สามารถสร้างหุ่นยนต์จากกองขยะได้ รักษาคนได้เหมือนหมอ เก่งคอมเหมือนแฮกเกอร์จนสามารถโจรกรรมข้อมูลจาก FBI ได้ ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในคนๆ เดียว แต่ในความเป็นจริงเพียงแค่เชี่ยวชาญอย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้ ก็ยากมากแล้ว

10. ดวลดาบ

การดวลดาบในโลกภาพยนตร์ดูเหมือนกับการเต้นรำ แม้จะดูสนุก ดูเท่ แต่มันต่างจากความเป็นจริงมาก เพราะในความเป็นจริงในระหว่างดวลดาบต้องใช้ความระแวดระวังทั้งการโจมตี และการป้องกันตัวไม่ให้ถูกแทงเป็นอย่างมาก

11. ทรงผมและฟันที่ดูดีของคนยุคโบราณ

ในความเป็นจริงแล้วคนยุคโบราณไม่ค่อยสะอาดหรือสุขภาพดีเท่ากับที่เราได้เห็นในปัจจุบัน พวกเขายังมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันเป็นอย่างมาก รวมถึงไม่มีการจัดแต่งทรงผมหรือหนวดเคราอย่างแน่นอน

12. รักษาแผลด้วยแอลกอฮอล์หรือใช้ความร้อนเผา

ในความเป็นจริง เราใช้แอลกอฮอล์เอาไว้ล้างแผลและเช็ดผิวหนังก่อนฉีดยาเท่านั้น ไม่ควรราดมันลงบนบาดแผล เช่นเดียวกับการใช้ความร้อน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผิวหนังโดยรอบถูกทำลาย จนนำไปสู่การติดเชื้อได้ และทำให้มันแย่ลง

13. ล็อกเกอร์ในโรงเรียน

ฉากที่มักจะเห็นกันบ่อยๆ นักเรียนยืนสนทนาหน้าตู้ล็อกเกอร์ พวกเขามักเก็บของส่วนตัว รูปภาพ สิ่งสำคัญเอาไว้ข้างใน ซึ่งในความเป็นจริง เรามักจะเก็บของสำคัญไว้ในกระเป๋าเป้ของตัวเองมากกว่า

14. ไม่มีการตกลงสถานที่และเวลานัดพบ

การชวนออกเดทในภาพยนตร์มักจะพูดด้วยประโยคที่บอกว่า “ผมจะไปรับคุณ” หรือ “แล้วพบกันที่ร้าน” โดยไม่ได้ระบุสถานที่ และเวลา

15. ขาดการสื่อสารที่ดี

ในภาพยนตร์เรามักจะได้ยินกันบ่อยๆ กับประโยคที่บอกว่า “เรามาทำอะไรที่นี่” แสดงว่าพวกเขาขาดการสื่อสารที่ดีและใช้เวลาไม่คุ้มค่าในระหว่างขับรถมา ทำไมพวกเขาไม่ถามกันระหว่างขับรถมา

หรือเมื่อตัวละคร “ผมจะแสดงให้คุณดู” แล้วพวกเขาก็ใช้เวลานานกว่าจะขับรถไปถึงที่เกิดเหตุโดยไม่อธิบายให้ชัดเจนไปเลยว่าเรื่องราวมันคืออะไร จากนั้นก็ตามด้วยคำพูดว่า “ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นที่นี่” …เพื่อ !!

ที่มา : brightside , เรียบเรียง : Soooksan