มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความงามที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ความงามในอดีตอาจจะต่างจากความงามในยุคปัจจุบัน หรืออาจแตกต่างไปตามภูมิภาคที่ผู้คนอาศัยอยู่ เช่น การบีบเท้าให้เล็กของคนจีนในสมัยก่อน หรือการสวมห่วงที่คอของชาวเขา
วันนี้เราจะพาไปพบกับเรื่องราวความงามในอดีต มาดูกันว่าผู้คนในอดีตมองความงามเป็นอย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมกันเลย
1. คิ้วหลากสี
คิ้วเป็นมงกุฎของใบหน้ามาอย่างยาวนาน มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกความงามในทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงยุคกลางของจีน พวกเขามองว่าการมีคิ้วหลากสีคือสุดยอดความงามถึงขนาดที่หนึ่งในจักรพรรดิของจีนเวลานั้นสิ่งให้สนมของเขาทำคิ้วสีน้ำเงินอมเขียว นางสนมทั้งหลายจึงจำเป็นต้องโกนคิ้วและใช้หมึกราคาแพงมาแต้มคิ้วให้ได้ตามนั้น อีกนัยหนึ่งมันเป็นการแสดงถึงฐานะอีกด้วย
2. หน้าผากกว้าง
ช่วงปลายศตวรรษที่ 14 แฟชั่นความงามที่มาแรงในเวลานั้นคงหนีไม่พ้น การทำหน้าผากกว้างและคอที่ผอมบาง ซึ่งผู้ที่ปลุกกระแสนี้คือ ราชินีอิสซาเบลลาแห่งบาวาเรีย ฮิตถึงขนาดที่ว่าสาวๆ ทุกคนต้องรีบไปโกนผมตรงหน้าผากออกเพื่อให้ดูเถิก บางคนถึงขนาดโกนคิ้วเพื่อให้ดูสวยมากยิ่งขึ้น
3. เล็บยาว
เล็บเป็นอีกอย่างที่แสดงความงามของสาวๆ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยสาวๆ จะดูแลเล็บตัวเองเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับประเทศจีนในสมัยก่อนที่เชื่อว่าผู้ที่มีเล็บยาวคือผู้คนที่ร่ำรวย จนสามารถจ้างคนรับใช้มาทำงาน และไม่ต้องทำอะไรเอง โดยพวกเขาจะไว้เล็บเฉพาะนิ้วนางและนิ้วก้อยเท่านั้น จะได้หยิบจับสะดวก และมีเครื่องป้องกันพิเศษเพื่อไม่ให้เล็บหักอีกด้วย
4. ผิวซีด
ประเทศอังกฤษช่วงศตวรรษที่ 18 แฟชั่นผิวซีดเป็นที่นิยมอย่างมาก บางคนถึงขนาดใช้ปุ๋ยคอกม้ามาทาตัว บางคนมีการใช้ดินสอสีน้ำเงินเพื่อแรเงาใบหน้าตัวเอง เพื่อให้ดูซีดๆ เข้าไปอีก
5. ฟันขาว
ฟันเป็นความงามอย่างหนึ่งของใบหน้ามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในปัจจุบันเรามีการจัดฟัน ฟอกสีฟันซึ่งมีความปลอดภัยสูง แต่ในสมัยจอร์เจียนที่นิยมเรื่องฟันขาว พวกเขาใช้กรดกำมะถันเพื่อจะทำให้ฟันขาว ซึ่งนั่นเป็นอันตรายอย่างมาก เพราะอาจทำให้สูญเสียฟันไปหมดได้ แต่สำหรับคนรวยยุคนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา เพราะพวกเขามีเงินทำฟันปลอม
6. ผมสีอ่อน
ภาพวาดของเปตรากที่ชื่อลอร่าอันโด่งดังนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์ของความงาม ทำให้ผมสีอ่อนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 15 ซึ่งการจะทำผมสีอ่อนในสมัยก่อนนั้นไม่ง่าย ต้องผสมน้ำยาย้อมผมและทาให้ทั่วผม หลังจากนั้นคลุมด้วยใบไม้เป็นเวลา 2 วัน หลังจากนั้นจึงจะทำการย้อมรอบที่สองซึ่งใช้เวลากว่า 4 วันเลยทีเดียว
7. เอวเล็กบาง
แฟชั่นเอวเล็กนั้นโด่งดังเป็นพลุแตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16 ทำให้สาวๆ ทั่วยุโรปหันมาสวมชุดที่ทำให้เอวเล็กลง ซึ่งนั่นทำให้เอาเล็กลงกว่า 10 นิ้ว ซึ่งมันเป็นอันตรายต่อตัวผู้ใช้งาน เพราะนอกจากจะทำให้หายใจลำบากแล้ว อาจส่งผลในระยะยาวได้อีกด้วย
ที่มา : brightside , เรียบเรียง : Soooksan
