13 ภาพที่พิสูจน์ว่า “โลกกำลังร้องไห้” สาเหตุจากมนุษย์

897

โลกของเราร้อนขึ้นทุกวัน ซึ่งมีหลักฐานยืนยันคือข้อมูลทางสถิติ ที่บ่งบอกถึงตัวเลขอุณหภูมิที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปี 2560 ที่โลกร้อนเป็นประวัติกาล ความร้อนแผ่ซ่านสูงที่สุดในรอบ 150 ปี น้ำแข็งที่ขั้วโลกก็ละลายอย่างรวดเร็ว ทำให้มวลน้ำมหาศาลเพิ่มเข้าไปในมหาสมุทร เกิดความแปรปรวนของสภาพอากาศ โลกกำลังเสียสมดุล

หลายๆ คนรู้สึกถึงเรื่องนี้ และกำลังทำบางอย่างเพื่อที่จะชะลอหายนะที่กำลังเกิดขึ้น แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่เคยเห็นผลกระทบของมัน วันนี้เราจะพาไปดูกัน

1 ใครจะไปเชื่อ ว่าอากาศจะร้อนถึง 53 องศาเซลเซียส

เนื่องจากภาวะเรือนกระจก ทำให้ความร้อนที่เข้ามาบนผิวโลก ไม่สามารถสะท้อนกลับออกไปนอกโลกได้ ทำให้โลกมีความร้อนสะสมสูงมาก ในอเมริกา ความร้อนสูงถึง 48 องศาเซลเซียส และในบางที่ เช่น คูเวต ก็ร้อนได้ถึง 53 องศาเซลเซียส

2. เมื่อร้อนก็ร้อนมาก ยามหนาวก็หนาวจัด

นอกจากความร้อนที่สูงมาก ความเย็นในบางพื้นที่ก็สุดขั้วเช่นกัน ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศแบบเฉียบพลัน ซึ่งเป็นผลมาจากปรากฏการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลต่อกันเป็นลูกโซ่ จะเห็นได้จากภาพจระเข้ที่ถูกแช่แข็งในแม่น้ำ เป็นภาพที่ถูกส่งต่อกันอย่างมากบนโลกออนไลน์

แม้จระเข้จะสามารถจำศีลในน้ำแข็งได้ โดยที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่อีกัวน่าไม่สามารถทำแบบนั้นได้ และเมื่อเป็นเช่นนั้น มันก็ต้องจากไป

3. ถ้าบอกว่าหนาวจนหิมะตกคงไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าบอกว่าหนาวจนหิมะตกในทะเลทราย ใครจะไปเชื่อ

นี่คือทะเลทรายที่ตั้งอยู่ในแอฟริกา ที่ครอบคลุมพื้นที่ของประเทศแอลจีเรีย บนเทือกเขาแอตลาส ใครจะไปเชื่อว่าทะเลทรายแห่งนี้มีหิมะตกแล้วกว่า 3 ครั้ง ครั้งแรกในปี 1979 ซึ่งครั้งนั้นเป็นพายุหิมะที่ตกกว่าครึ่งชั่วโมง และเกิดอีก 2 ครั้งในปี 2016 และปี 2018

4. เมื่อในป่าไม่มีเหยื่อเหลืออยู่ เสือโคร่งไซบีเรียจึงต้องออกมาหาอาหารข้างนอก

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ธรรมชาติเสียสมดุลคือล่าสัตว์​ ทำให้สัตว์ที่จะเป็นต่อระบบนิเวศหายไป บางชนิดก็สูญพันธุ์ สัตว์ผู้ล่าอย่างเสือเองก็ไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องเอาตัวรอดโดยการเสี่ยงออกมาหาอาหารนอกป่า เนื่องจากในป่าไม่มีอาหารเหลืออยู่ แต่ไม่เพียงแค่เสือเท่านั้น ยังมีสัตว์อีกหลายล้านตัวที่ตกอยู่ในสภาวะนี้

5. เมื่อการทำไร่ คุกคามป่า

ภาพนี้แสดงให้เห็นว่าการทำไร ทำให้เราสูญเสียพื้นที่ป่าไปมากแค่ไหน นี่คือป่าในบราซิลที่ถูกถางออกเพื่อผลิตถั่วเหลือกว่า 100 ล้านตัน ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป ป่าของโลกเราคงไม่มีเหลือ

6. สิ่งที่คุณเห็นนี้คือหมอกควันในจีน ที่เกิดจากการปล่อยของเสียในอุตสาหกรรม

เมื่อมีมนุษย์เพิ่มขึ้น การบริโภคย่อมมากขึ้น อุตสาหกรรมเพื่อตอบสนองมนุษย์ย่อมต้องมีมากขึ้นตาม ซึ่งทำให้เกิดมลพิษอย่างที่เห็นในภาพ ลองจินตนาการว่าคุณต้องตื่นมาเพื่อจะสูดหายในเอาควันนี้เข้าไปในปอดทุกๆ วันดูสิ แค่คิดก็เศร้าแล้ว

7. เมื่อไฟป่าอยู่หลังบ้านคุณ

นี่คือสเปน เมืองกิฆอน เวลา 10:00 น. สีแดงฉานนั้นเกิดจากไฟป่าที่อยู่ห่างออกไปกว่า 100 กิโลเมตร มันรุนแรงแค่ไหนกัน ถึงขนาดที่ผู้คนที่อยู่ห่างออกไปเป็นร้อยกิโลเมตรมองเห็นมันได้ ยิ่งไปกว่านั้น สาเหตุของไฟป่ากว่า 90% เกิดจากมนุษย์

8. อ่างเก็บน้ำกลายเป็นสีชมพู

แอ่งแห่งนี้ตั้งอยู่ที่รัสเซีย ชาวบ้านระแวกนั้นต้องประหลาดในอย่างมาก เมื่อจู่ๆ น้ำในแอ่งแห่งนี้ก็กลายเป็นสีชมพู ไม่มีใครเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ออกมาเผยถึงสาเหตุว่า เกิดจากฝนที่ตกลงมาเป็นกรด

เจ้าฝนกรดที่ว่านี้เกิดจากก๊าซที่เป็นของเสียในการเผาถ่านหินและน้ำมัน เมื่อมันทำปฏิกิริยากับน้ำ มันจะกลายเป็นกรด ต่อไปนี้คุณยังกล้าออกไปเปียกฝนอีกหรือเปล่า

9. การพักผ่อนริมหาดในบราซิล กับคนนับแสน

นี่คือหาดที่ตั้งอยู่ที่เมือง ริโอ เดอ จาเนโร ในบราซิล เมืองที่มีประชากรหนาแน่นมาก ซึ่งภาพนี้ก็คงบอกได้เป็นอย่างดีว่าแน่นแค่ไหน ปัจจุบันโลกของเรามีประชากรกว่า 9 พันล้านคน ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นกว่า 5 เท่าในร้อยปีที่ผ่านมาก

10. หมีขั้วโลกสุดน่าเกรงขาม

สัตว์นักล่าก็จบชีวิตได้เหมือนกัน เมื่อมันไม่มีอะไรให้ล่า ภาพนี้แสดงถึงหมีที่หิวโซ ตัวซูบผอม ซึ่งปกติแล้วหมีชนิดนี้จะสะสมไขมันเอาไว้ปริมาณมาก เนื่องจากต้องเอาตัวรอดในสภาวะที่หนาวจัดและอาจไม่ได้กินอะไรหลายเดือน การที่น้ำแข็งละลายส่งผลให้บ้านของสิ่งมีชีวิตในแถบขั้วโลกนั้นหายไปเป็นอย่างมาก รวมถึงเจ้าหมีนี้ด้วย

11. น้ำมันรั่วไหลจากการระเบิดของแท่นขุดเจาะน้ำมันในปี 2010

เชื่อหรือไม่ว่า น้ำมันกว่า 12 ล้านตันไหลลงทะเลทุกๆ ปี เนื่องจากการรั่วไหลของถังเก็บน้ำมัน ซึ่งทำให้ 1 ใน 4 ของมหาสมุทรถูกปกคลุมไปด้วยน้ำมัน

เหตุการณ์ที่โลกต้องจดจำคือการระเบิดที่แท่น Deepwater Horizon ที่ทำให้น้ำมันหลายพันตันไหลลงสู่ทะเล แม้จะมีความพยายามในการกำจัดน้ำมัน แต่ก็ยังมีน้ำมันกว่า 25% ที่ไม่สามารถกำจัดออกไปได้

12. ทะเลที่เต็มไปด้ววขยะ

เรื่องที่น่าตกใจที่สุดเกี่ยวกับทะเลคือ ทุกๆ ปี จะมีขยะกว่า 260 ตันถูกทิ้งลงไป มันใหญ่มหึมาขนาดไหนน่ะเหรอ ก็ใหญ่พอที่จะคลุมผิวของมหาสุทรได้ 1 ใน 10

13. มนุษย์รักความสบาย

มีรายงานที่เปิดเผยว่า เหล่าวาฬในทะเลได้กลืนขยะพลาสติกในปริมาณมหาศาล เพื่อเป็นการรณรงค์ กลุ่มอนุรักษ์ในฟิลิปปินส์จึงสร้างซากวาฬจากขยะพลาสติก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความหนักหนาของปัญหาที่วาฬกำลังเผชิญ ขยะที่ถูกนำมาสร้างอนุเสาวรีย์นี้ ก็คือขยะที่ถูกเก็บมาจากทะเลนั่นเอง

ที่มา : brightside , เรียบเรียง : Soooksan